ฟลุค เกริกพล เผยไม่คิดสร้างความแตกแยก ปมไลฟ์ว่ารัฐฯ

ฟลุค เกริกพล เผยไม่คิดสร้างความแตกแยก ปมไลฟ์ว่ารัฐฯ

จากกรณีที่หนุ่ม ฟลุค เกริกพล มัสยวาณิช ได้ออกมาไลฟ์ผ่านทางเฟซบุ๊ก พูดถึงการเคอร์ฟิว และสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งในคลิปฟลุ๊คก็ได้พูดถึงการทำงานของรัฐบาล ถึงเรื่องที่ต้องขอรับบริจาคเงินจากประชาชนอยู่เสมอ ทำไมรัฐบาลต้องมารอสิ่งเหล่านี้ จนกลายเป็นประเด็นดราม่าร้อนแรงในโลกโซเชียล

ล่าสุดวันที่ 6 เมษายน 2563 ฟลุคก็ได้ออกมาชี้แจงผ่านทางอินสตาแกรมว่า 

“ผมเห็นด้วยมาตลอด กับการช่วยเหลือสังคม และคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีงาม ผมไม่เคยคิดและไม่เคยพูดว่าไม่เห็นด้วยในเรื่องการบริจาค นะครับ แต่ คลิปที่ถูกตัดออกมาเป็นแค่ช่วงหนึ่งของ 1 ชั่วโมง และการจั่วหัว อาจจะทำให้ มีการเข้าใจผิดกันได้ แต่ถ้าใครได้ฟัง Live ของผมเต็มๆ คงพอจะเข้าใจผมเหมือนเช่น #Savefluke ใน twitter ที่เข้ามาช่วยตอบแทนผม ซึ่งผมขอบคุณมากๆ ครับ

ผมไม่เคยคิดที่จะสร้างความแตกแยกใดๆ กรุณา อย่าเอาผมไปโยงเรื่องการเมืองเลยครับ ผมเป็นคนไทยที่รัก เมืองไทยของเรา เหมือนทุกท่าน ขอบคุณครับ”

เราไม่ได้พูดทำนองนั้น เรามีแต่ให้กำลังใจเขา ซึ่งผมรู้ตัวล่วงหน้าอยู่แล้วว่าในวันที่ยื่นฟ้อง น่าจะไม่ได้ประกันตัว แต่ทุกคนก็มีความหวังว่าน่าจะได้ เราไม่ได้หลบหนีไปไหน เราบริสุทธิ์ใจมาตลอด แต่ผมก็เผื่อใจไว้แล้วว่าน่าจะไม่ได้ แต่เราไม่พูดกับคนอื่น เครียดในส่วนที่เขาน่าจะมีผลกระทบกับงาน แต่พฤติการณ์คดีมันห่างมาก สุดท้ายก็ไม่ได้เกี่ยวข้อง ก็อาจมีส่วนด้วยครับ เขาทำงานเยอะ เดินสายไปหลายที่ เลยทำให้ไม่ค่อยมีเวลามาเยี่ยม จะมีก็แต่ครอบครัว พี่ชาย คุณแม่มา

ก็ฝากไปบอกเหมือนกันว่าถ้าว่าง ไม่ติดงานไม่ติดอะไรก็ให้แวะมาบ้าง ก็คิดถึงอยู่แล้ว แต่จะไม่ให้พาลูกมา เพราะมันทำใจไม่ได้ ก่อนเข้าไปเรซซิ่งอายุ 3 เดือน แพททำงาน เราก็ช่วยเลี้ยงลูก เราผูกพัน วันนึงเราชีวิตหักเหไม่เจอกันเลย เราทำใจไม่ได้ที่วันนึงเขาจะต้องพามาเจอแค่กระจกกั้น แล้วเราไม่สามารถกอด สัมผัสอะไรได้ ก็บอกว่าไม่ต้องพามา ก็อดทน รอนิดเดียว ผมมั่นใจว่ายังไงก็ได้ออกไปอยู่แล้ว

มันเกินจะบรรยายครับ มันดีใจที่สุดอยู่แล้วที่เราได้กลับมา แม้กระทั่งบอกว่าไม่ให้พามา เขาก็ไม่พามาเลย แต่ปริ้นท์รูปมาให้ เราดูแล้วยังร้องไห้เลย พยายามเก็บไว้ในแฟ้ม ไม่อยากเห็นไม่อยากดู เขาโตมาแต่เราไม่ได้อยู่กับเขา มันอ่อนไหวมาก พออยู่ข้างในต้องยอมรับว่าเราไม่รู้อนาคตเหมือนกัน สิ่งที่เราหวังไว้มันอาจไม่เหมือนอย่างนั้นก็ได้ ช่วงที่เข้าไปมีมิวสิกวิดีโออันนึงที่แพทกับเรซซิ่งไปถ่าย เราเห็นก็ร้องไห้ตลอด เพลงนี้มาเพื่อนๆ ก็มองแล้ว เตรียมตัวดูเบนซ์ร้องไห้ได้เลย

มันเริ่มตั้งแต่ผมเข้าไปอยู่ข้างใน มันก็เริ่มห่างกันไป ความสัมพันธ์ก็เหมือนลดลงไปเรื่อยๆ เขาก็สะดวกย้ายไปอยู่บ้านของเขา ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้วตอนออกมา เราก็ดูแลธุรกิจของเรา ดูแลครอบครัว ดูแลคุณแม่ต่อไป

ในจุดที่ลงตัวที่สุดคือการที่เราคุยกันไว้ว่าเขาก็สะดวกของเขาอย่างนี้ เขาต้องทำงาน พาไปออกงานตลอด ถ้าเรามีเวลาก็ไปเจอกัน ไปรับลูกบ้าง ทำกิจกรรมที่โรงเรียนบ้าง ก็คิดว่าน่าจะเป็นคำตอบที่ลงตัว ก็ดำเนินการมา มันก็ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เรามาโฟกัสที่ตัวเรซซิ่งมากที่สุด

เบลล่า ราณี ทำโรงทาน-ถวายหน้ากากอนามัยให้วัด

หลังจากที่นำเงินส่วนตัวจำนวน 2,500,000 บาท มอบให้แก่โรงพยาบาลทั้ง 5 เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และเหล่าแพทย์ พยาบาลที่ขาดแคลนอุปกรณ์ต่างๆ จนหลายคนชื่นชมในความใจบุญ สำหรับดาราสาว เบลล่า ราณี แคมเปน

ล่าสุดดาราสาวยังขอทำโรงทาน ที่วัดพระยาสุเรนทร์ พร้อมถวายหน้ากากอนามัยให้กับพระอีกด้วย โดยเบลล่าได้โพสต์ภาพ และเขียนแคปชั่นว่า “วันนี้เบลได้ทำโรงทาน และนำหน้ากากอนามัยไปถวายวัดพระยาสุเรนทร์ 600 ชิ้น (ขอบคุณเพื่อนmca17 ที่ร่วมสมทบทุนค่ะ) ใครอยู่ใกล้ๆ สามารถไปทาน(นำปิ่นโตไป)และรับหน้ากากได้นะคะ รวมถึงเพื่อนๆ ที่ร่วมไถ่ชีวิตโค-กระบือ วันนี้นำถวายวัดแล้ว อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ”

หลังจากนั้นก็มีชาวเน็ต และเพื่อนๆ ในวงการบันเทิง เข้ามาคอมเมนต์ชื่นชมสาวเบลล่ากันเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งเข้ามาอนุโมทนาบุญด้วย

จากกรณีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และทำให้หน้ากากอนามัยกลายเป็นของใช้จำเป็นที่ทุกคนต้องพกติดตัว และสวมใส่ทุกครั้งเวลาออกจากบ้าน จนส่งผลให้ขาดตลาดกันเลยทีเดียว ล่าสุด เอ พศิน เรืองวุฒิ ดาราหนุ่ม ก็ได้ออกมาเตือนถึงข้อควรระวังในการใส่หน้ากากอนามัย ซึ่งอาจจะส่งผลให้มีภาวะเลือดเป็นกรดได้

โดยหนุ่ม เอ ได้โพสต์ภาพที่ตนเองใส่หน้ากากอนามัย และเขียนข้อความว่า “ใส่ #หน้ากาก นานๆ ระวัง อาการ #ภาวะเลือดเป็นกรด นะครับ เนื่องจาก รับคาร์บอนใดออกไซด์เข้าปะปน ทำให้ได้รับออกซิเจนน้อยเกินไป

#ความเป็นกรดด่างของเลือดหรือของเหลวในร่างกายวัดได้จากค่าพีเอชที่เป็นตัวช่วยให้การทำงานของเซลล์ในระบบต่าง ๆ และการขนส่งออกซิเจนไปยังเนื้อเยื่อเป็นปกติ โดยค่าพีเอชเลือดของคนปกติจะอยู่ในช่วง 7.35-7.45 ส่วนใหญ่จะมีความเกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นการทำงานของปอด และการควบคุมความสมดุลของเกลือแร่และภาวะกรดด่างในร่างกายจากการทำงานของไต

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า